ยกบ้านหรือดีดบ้าน ควรทำในกรณีไหน
การยกบ้าน มีข้อควรระวัง ดังนั้นจึงต้องมีการคิดไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจ ซึ่งหลัก ๆ แล้ว การยกบ้านจะนิยมทำใน 3 กรณี คือ
1. บ้านอยู่ระดับต่ำกว่าถนน
เมื่อครั้งที่ซื้อบ้านหรือสร้างบ้าน เลือกทำเลดี ไม่มีปัญหาน้ำท่วม โครงการอยู่สูงกว่าระดับถนน โอกาสน้ำท่วมถึงเป็นไปได้ยาก แต่ต่อมามีการก่อสร้างขยายถนน ทำให้บ้านอยู่ระดับต่ำกว่าถนนไปโดยปริยาย เวลาที่ฝนตกหนัก น้ำระบายไม่ทัน จึงพบปัญหาน้ำเอ่อไหลเข้าท่วมพื้นบ้านชั้นล่าง แม้จะหล่อแนวขอบคันคอนกรีตกั้นน้ำเพื่อป้องกัน แต่ก็อาจมีน้ำซึมจากพื้นบ้าน ขอบมุม พื้นชนผนัง และยาแนวกระเบื้องได้ การยกบ้านหรือดีดบ้านขึ้น เพื่อให้พื้นบ้านอยู่ในระดับสูงกว่าถนน แม้จะต้องทำหลายขั้นตอน แต่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว
2. บ้านอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย
หลายบ้านเคยมีประสบการณ์จากเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อปี 2554 ทำให้ก่อนซื้อบ้านหรือซื้อที่ดินปลูกสร้างบ้าน พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ต้องรู้ก่อนซื้อบ้าน เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจ เพราะการที่ที่อยู่อาศัยต้องจมน้ำ หรือถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน อาจกระทบโครงสร้างบ้านให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ และของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน การยกบ้านให้สูงขึ้นอย่างน้อย 1.5 เมตร หรือมากกว่านั้น สามารถลดความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมได้
3. บ้านทรุดตัวจากฐานราก
ฐานรากเป็นส่วนสำคัญในการสร้างบ้าน เพราะเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักของตัวบ้านทั้งหมด เสาเข็มต้องมีความมั่นคงแข็งแรง โดยเสาเข็มเป็นส่วนของโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน หากเสาเข็มเกิดการทรุดตัวลง จะทำให้ระดับพื้นของตัวบ้านไม่เท่ากัน สัญญาณที่พบ คือ กำแพงมีรอยร้าวเป็นแนวเฉียง ตัวบ้านเริ่มทรุดเอียง

ช่างยกบ้านสูงบางซื่อ
ช่างยกบ้านสูงถนนพิบูลสงคราม
ช่างยกบ้านสูงถนนประชาราษฎร์ สาย 1
ช่างยกบ้านสูงถนนประชาราษฎร์ สาย 2
ช่างยกบ้านสูงถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี
ช่างยกบ้านสูงถนนรัชดาภิเษก
ช่างยกบ้านสูงถนนวงศ์สว่าง
ช่างยกบ้านสูงถนนประชาชื่น
ช่างยกบ้านสูงถนนเตชะวณิช
ช่างยกบ้านสูงถนนเทอดดำริ
ช่างยกบ้านสูงย่านทางพิเศษศรีรัช
ช่างยกบ้านสูงย่านสายรองและทางลัด
ช่างยกบ้านสูงย่านถนนริมคลองประปาฝั่งซ้าย
ช่างยกบ้านสูงย่านถนนริมคลองประปาฝั่งขวา
ช่างยกบ้านสูงย่านถนนรถไฟ
ช่างยกบ้านสูงย่านถนนริมทางรถไฟสายใต้